ในอดีตเมื่อพันกว่าปีที่แล้วนั้น คิโนซากิเป็นเพียงเมืองน้ำพุร้อนออนเซ็นเล็กๆ เมืองหนึ่ง แต่หลังจากได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตอนเหนือของเมืองทาจิม่าเมื่อปี 1925 เมืองคิโนซากิก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ โดยยังคงไว้ซึ่งรูปแบบสถาปัตยากรรมต่างๆ ให้เหมือนอย่างในอดีต และในปัจจุบันนี้เองเมืองคิโนซากิก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นโดยมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟใหม่ๆ เกิดขึ้นมา และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี ซึ่งถือเป็นการผสมผสานของเมืองเก่า และเมืองใหม่ได้อย่างลงตัว

 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายศตวรรษ ในทุกๆ ปีดอกซากุระของคิโนซากิจะบานสะพรั่งในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเหมือนเครื่องคอยเตือนใจอย่างสม่ำเสมอว่า ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ความสวยงามและบรรยากาศแบบดั้งเดิมของเมืองก็จะคงอยู่ตลอดไป

 “Sozoro Aruki” หรือ การเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมาย เป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายของคิโนซากิในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลังจากสวมชุดยูกาตะลายดอกไม้สีสันสดใส การเดินเล่นไปตามถนนในเมืองที่เรียงรายด้วยต้นหลิว และดอกซากุระ ช่างเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

ในฤดูใบไม้ผลิเหล่าบรรดาร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ในคิโนซากิ ต่างก็พากันประดับตกแต่งร้านด้วยดอกซากุระ รวมถึงบรรยากาศภายในเมือง หรือแม้กระทั่งศิลปะบนฝาท่อระบายน้ำที่ต่างก็มีดอกซากุระสอดแทรกกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง