“แนวคิดการอยู่ร่วมกัน และการเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”

ความพยายามในการอนุรักษ์ของชาวเมืองโตโยโอกะตั้งแต่ปี 1925 - 2021

ย่านคิโนซากิออนเซ็น แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเมืองโตโยโอกะ แหล่งน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อว่ามีบรรยากาศกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ เนื่องด้วยอาคารต่างๆ ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทางด้านประวัติศาสตร์

ในช่วงสายของวันที่ 23 พฤษภาคม 1925 ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูดขึ้นที่เมืองโตโยโอกะ รวมถึงบริเวณคิโนซากิออนเซ็น และด้วยช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวัน จึงทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามไปทั่วทั้งเมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 283 ราย รวมถึงอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย และพังทลายจำนวนมาก

จากเหตุการณ์ไฟไหม้ และแผ่นดินไหวในครั้งนั้น ชาวเมืองคิโนซากิต่างก็มีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะสร้างเมืองออนเซ็นอันเป็นที่รักกลับมาอีกครั้ง โดยได้มีการจัดประชุมร่วมกันกว่า 100 ครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนในการฟื้นฟู และในที่สุดก็มีการตัดสินใจว่านอกจากการสร้างอาคารใหม่จำนวนมากด้วยสถาปัตยกรรมไม้แบบดั้งเดิมแล้ว ยังจะมีอาคารอีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ โรงอาบน้ำสาธารณะ ศาลากลาง และสถานีตำรวจ ที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่ โดยใช้คอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อป้องกันอัคคีภัยในอนาคต ท่ามกลางความพยายามในการบูรณะเมือง ได้มีการออกกฎหมายฉบับใหม่ที่กำหนดให้สร้างอาคารสูงได้ไม่เกินสามชั้นเพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศดั้งเดิมของเมืองคิโนซากิ และนอกจากนี้ยังได้มีการนำหินจากถ้ำเก็นบุโดที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับคิโนซากิออนเซ็นมาใช้เสริมความแข็งแรงให้กับริมฝั่งแม่น้ำโอตานิ แม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองคิโนซากิ เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมจากฝนตกหนักอีกด้วย

“เคียวซง เคียวเออิ" (Kyozon-Kyoei)

นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องการอยู่ร่วมกัน และการเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หรือที่ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า “เคียวซง เคียวเออิ" (共存共栄 / Kyozon-Kyoei) ยังเป็นแนวคิดที่ถูกนำมาใช้พัฒนาและต่อยอดความสำเร็จของคิโนซากิในฐานะแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองโตโยโอกะ โดยแทนที่จะดำเนินธุรกิจแข่งขันกัน แต่ธุรกิจในท้องถิ่นต่างก็พยายามสนับสนุนซึ่งกันและกันผ่านความพยายามร่วมกันเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมออนเซ็นในเมืองของตน โดยเมืองน้ำพุร้อนคิโนซากิออนเซ็นเปรียบเสมือนเป็นโรงแรมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มีที่พักแต่ละแห่งในเมืองเปรียบเหมือนห้องพักในโรงแรม โดยมีสถานีรถไฟเป็นทางเข้าโรงแรม ถนนเป็นระเบียงทางเดิน โรงอาบน้ำสาธารณะเป็นบ่อน้ำพุร้อน ร้านค้าเป็นร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารเป็นห้องอาหาร แนวคิดเรื่อง “การอยู่ร่วมกันและการเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ยังคงปรากฏอยู่ทั่วไปในคิโนซากิมาจนถึงทุกวันนี้ หากนักท่องเที่ยวได้มาเยือนคิโนซากิก็จะได้พบกับป้ายที่มีสโลแกนท้องถิ่นว่า “Kyozon-Kyoei”

ตะลอนออนเซ็นอย่างมีสไตล์

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 1,300 ปีของคิโนะซากิออนเซ็น บริษัทผลิตกระเป๋าสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในเมืองโตโยโอกะได้เริ่มจำหน่ายกระเป๋าที่ระลึก ที่เหมาะกับกิจกรรมในแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้อย่างการตระเวนแช่ออนเซ็นสาธารณะหลายแห่งในวันเดียว หรือที่เรียกว่า Onsen Hopping ออกจำหน่าย

       
กระเป๋า Yumeguri Bag และตั๋ว 1 วันสำหรับแช่ออนเซ็นทั้ง 7 บ่อในคิโนซากิออนเซ็น

กระเป๋าที่ว่านี้มีชื่อว่า YUMEGURI BAG ผลิตขึ้นโดยคำนึงถึงประสบการณ์ในการแช่น้ำพุร้อนแบบอุดมคติ โดยคำนึงถึงทุกรายละเอียดตั้งแต่ผ้าชนิดกันน้ำไปจนถึงสายสะพายไหล่ที่พาดสบาย ทำให้สามารถนำผ้าเช็ดตัวและสิ่งของจำเป็นในการแช่น้ำร้อนจากบ่อน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งได้สะดวกสบาย และดูดีมีสไตล์ กระเป๋า YUMEGURI มีให้เลือก 2 ขนาด (ใหญ่ / เล็ก) และมี 5 สีที่แตกต่างกัน ได้แก่ สีดำ สีเบจ สีฟ้า สีกรมท่า และสีขาว ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิด “การอยู่ร่วมกันและการเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” นั่นคือ เมื่อซื้อกระเป๋า YUMEGURI จะได้รับตั๋วหนึ่งวันสำหรับแช่ออนเซ็นทั้ง 7 บ่อในคิโนซากิออนเซ็น โดยตั๋วแช่ออนเซ็นนี้สามารถใช้ได้จนถึงปี ค.ศ. 2026 และสามารถนำไปแลกเป็นตัวจริงได้ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว SOZORO ด้านหน้าสถานีรถไฟคิโนซากิออนเซ็น

ผู้ที่สนใจกระเป๋า YUMEGURI และอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคิโนซากิออนเซ็น สามารถหาซื้อได้ที่ร้านกระเป๋าหลายแห่งทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์

YUMEGURI BAG สีขาว เป็นรุ่นลิมิเต็ดที่จำหน่ายเฉพาะในคิโนซากิออนเซ็นเท่านั้น
ดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากนกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) ในเมืองโตโยโอกะ

Visit Kinosaki Facebook : https://www.facebook.com/visitkinosakiTH
Visit Kinosaki Instargram : https://www.instagram.com/visitkinosaki/