5 กิจกรรมห้ามพลาดในคิโนซากิ ออนเซ็น 
(Top 5 Things to do in Kinosaki Onsen)

หากคุณกำลังมองหากิจกรรม ที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวของคุณเมื่อมาเยือนคิโนซากิ ออนเซ็น เราขอแนะนำกิจกรรมห้ามพลาด 5 อย่างนี้

1. ตระเวนแช่ออนเซ็น (Onsen Hopping)


หากพูดถึงการมาเที่ยวคิโนซากิออนเซ็น สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็ต้องเป็น การแช่ออนเซ็น นั่นเอง ที่ย่านน้ำพุร้อนแห่งนี้ มีบ่อน้ำแร่ออนเซ็น หรือ โรงอาบบน้ำสาธารณะเปิดให้บริการถึง 7 แห่ง โดยแต่ละแห่งก็มีเสน่ห์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักที่เรียวกังในเมืองนี้ จะได้รับบัตรสำหรับเข้าใช้บริการบ่อออนเซ็นทั้ง 7 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วเมืองฟรี  โดยออนเซ็นแต่ละแห่งจะอยู่ห่างจากกันในระยะที่สามารถเดินถึงได้ ดังนั้นในระหว่างการเข้าพักนักท่องเที่ยวจึงสามารถเข้าใช้บริการบ่ออนเซ็นได้มากเท่าที่ต้องการ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในเมือง ถ่ายภาพริมคลองที่มีต้นหลิวเป็นแนวยาว และดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบของคิโนซากิระหว่างการตระเวนแช่ออนเซ็นไปตามโรงอาบน้ำต่างๆ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวเพศชาย และเพศหญิง 2 คนแรกที่เข้าใช้บริการออนเซ็นในแต่ละวันจะได้รับของที่ระลึกสุดพิเศษจากโรงอาบน้ำแต่ละแห่งอีกด้วย

2. สวมชุดยูกาตะ และรองเท้าเกี๊ยะ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่คิโนซากิออนเซ็น ไม่ว่าจะ เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ เพศชาย หรือ เพศหญิง ก็มักจะแต่งกายด้วยชุดยูกาตะ และรองเท้าเกี๊ยะออกเดินเล่นในเมือง ชุดยูกาตะเป็นชุดกิโมโนที่ทำจากผ้าฝ้ายสำหรับสวมใส่ในฤดูร้อน ในอดีตจะใช้สำหรับเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำ แต่ในปัจจุบันมีการนำมาสวมใส่ในงานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการตระเวนบ่อออนเซ็น ส่วนรองเท้าเกี๊ยะนั้นเป็นรองเท้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีลักษณะคล้ายรองเท้าแตะ ทำจากไม้ เวลาเดินจะมีเสียงไม้ดังกระทบกับพื้นถนน ช่วยเพิ่มบรรยากาศเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต โดยเรียวกังแต่ละแห่งในเมืองจะมีชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะไว้คอยให้บริการแก่ผู้เข้าพัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสวมชุดยูกาตะที่มีดีไซน์ที่สวยงาม หรือต้องการเลือกแบบตามที่ตัวเองต้องการ ที่คิโนซากิก็มีบริการเช่าชุดยูกาตะที่ร้าน IROHA Yukata Shop & Rental

3. ขึ้นกระเช้าคิโนซากิ โรปเวย์

ที่ด้านในสุดของเมือง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาไดชิ เพื่อชมวิวที่สวยงามของคิโนซากิออนเซ็น และที่สถานีตรงการของกระเช้าลอยฟ้านี้เป็นที่ตั้งของวัดออนเซ็นจิ วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองคิโนซากิมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 738 สถานที่สำคัญในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเกี่ยวกับน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองคิโนซากิออนเซ็นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ และนอกจากนี้ที่สถานีด้านบนสุดของกระเช้าลอยฟ้ายังมีคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและทานอาหาร พร้อมกับชมวิวที่สวยงามของเมืองได้อีกด้วย

4. ชิมอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม

การเยี่ยมชมเมืองน้ำพุร้อนคิโนซากิจะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้เข้าพักในโรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือที่เรียกกันว่า เรียวกัง การเข้าพักในเรียวกังเป็นวิธีการสัมผัสประเพณี วิถีชีวิต และการต้อนรับแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ได้รับความนิยมแม้กระทั่งในกลุ่มคนญี่ปุ่นเช่นกัน ที่คิโนซากิมีเรียวกังที่เปิดไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวกว่า 74 แห่ง โดยแต่ละแห่งก็มีขนาดและราคาที่แตกต่างกันออกไป นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกเข้าพักได้ตามความต้องการ และตามงบประมาณที่เหมาะสม ห้องพักแบบเรียวกังมักจะมีพื้นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ โต๊ะตัวไม่สูงมาก วางไว้คู่เบาะรองนั่งบนพื้น และที่นอนฟุตงแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยการเข้าพักในเรียวกังตามปกติแล้วจะรวมบริการอาหารเช้า และอาหารค่ำไว้ให้ โดยเรียวกังแต่ละแห่งจะใช้วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของเมืองมาปรุงอาหารให้ผู้เข้าพักได้รับประทาน ไม่ว่าจะเป็น ปูหิมะในฤดูหนาว หรือเนื้อวัวทาจิมะ เนื้อวัวสายพันธุ์ดีต้นกำเนิดของเนื้อโกเบ

5. กิจกรรมเรียนรู้ และทดลองทำงานฝีมือพื้นเมือง

งานจักสานพื้นเมืองหรือที่เรียกว่า Mugiwara Zaiku เป็นงานหัตถกรรมดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยสีสันสดใสและลวดลายที่สลับซับซ้อน โดยงานจักสานนี้มีต้นกำเนิดในคิโนซากิออนเซ็น และในปัจจุบันมีช่างฝีมือหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หัตกรรมพื้นบ้านได้ที่ร้าน Kamiya Mingei เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของงานฝีมือเหล่านี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวยังสามารถทดลองทำเครื่องจักสานด้วยตัวเองได้ และสามารถนำติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย

Visit Kinosaki Facebook : https://www.facebook.com/visitkinosaki
Visit Kinosaki Instargram : https://www.instagram.com/visitkinosaki/